วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัดบทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม


จงพิจารณกรณีศึกษาต่อไปนี้
1) "นาย A ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานขอคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง" การกระทำอย่างนี้ ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบ= ผิดเพราะทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนและผิดจริยธรรมมากๆ ทั้งต่อด้านตนเองและสังคม และผิดกฎหมาย ทางด้านการละเมิดลิทธิของนาย A

2) "นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตราต่างๆ อีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J " การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหนจงอธิบาย

ตอบ= ไม่ผิดจริยธรรมหรือกฎหมายใดๆทั้งสิ้นเพราะ นาย J แค่ต้องการทำเพื่อความสนุกสนานเท่านั้นไม่ได้คิดจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนแต่อย่างใด

การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน


การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน

            ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความจำเป็นในชีวิตประจำวันและเป็นส่วนที่ช่วยให้การดำเนินภาระกิจในประจำวันมีความสะดวกรวดเร็ว เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้สามารถรับรู้ข่าวสารข้อมูลได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ห่างไกลกันมากๆ ฉะนั้นในการดำเนินชีวิตในประจำวันจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาโดยการ่ติดต่อทางโทรศัพท์ กระประชุมผ่านทางอินเตอร์เน็ต ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีความถูกต้อง เเม่นยำ และสามารถช่วยในการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสะดวกต่อการเรียกใช้งาน นำมาใช้เป็นเเหล่งข้อมูลในการศึกษาค้นคว้าในการเรียนรู้ อีกทั้งยังนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ (E commerce) เป็นต้น



          ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าในสังคมปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญและมีความจะเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวัน ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสือสารให้มีความรวดเร็ว เเม่นยำ ทันต่อเวลา และประหยัด และมีแนวโน้วที่จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในอนาคต 
เพราะเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานสารสนเทศให้เป็นไปอย่างมี
ประสิทธิภาพ นับตั้งแตการผลิต การจัดเก็บ การประมวลผล การเรียกใช้ 
การสื่อสารสารสนเทศ 
การแลกเปลี่ยนและใช้ทรัพยากรสารสนเทศร่วมกันให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่





การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ


     1. การประยุกต์ใช้ในด้านการศึกษา การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการสอน เช่น การสอนด้วยสื่ออุปกรณืที่ทันสมัยใช้ (Video Projector) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นการนำเอาเทคโนโลยีรวมกับการออกเเบบโปรเเเกรมการสอนมาช่วยใช้ในการสอน ซึ่งเรียกันว่า บทเรียน CAI (Computer-Assisted Instruction) เป็นต้น



       2. การประยุกต์ใช้ในงานทะเบียนของสถานศึกษา การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการลงทะเบียนเรียน การประมวลผลการเรียน การตรวจสอบการจบการศึกษา และการส่งงานของนักศึกษา เป็นต้น



       3. การประยุกต์ใช้ในด้านการเเพทย์ เป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการลงทะเบียนผู้ป่าย การให้คำปรึกษาทางไกลโดยเเพทย์ผู้ชำนาญ ช่วยในการส่งข้อมูลที่เปนเอกสารหรือภาพเพื่อประกอบการพิจารณาของเเพทย์ได้



       4. การประยุกต์ใช้ในสำนักงานของภาครัฐและเอกชน การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วงการทำงานด้านต่างๆ เช่นการทำบัตรประจำตัวประชาชน การจ่ายค่าสาธารณูปโภคต่างๆ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในสำนักงานเพื่ออำนวยความสะดวกและมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น



       5. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของเครื่องเบิกถอนเงินอัตโนมัติ
เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงิน
และนำคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เข้ามาช่วยในการทำงานประจำวันของ
ธนาคารด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลของธนาคารต่างสาขา ต่างธนาคาร
ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเบิก ถอน โอนเงินชำระเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ได้โดยสะดวก




       6. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม
โรงงานอุตสาหกรรมนำเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเข้ามาช่วยในการจัดการ
ระบบงานการผลิต การสั่งซื้อ การพัสดุการเงิน บุคลากร และงานด้านอื่น ๆ
ในโรงงาน




       7. การประยุกต์ใช้ในงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มนักวิทยาสตร์ วิศวกรที่ต้องการศึกษาพฤติกรรมบางอย่างของสิ่งมีชีวต
รวมถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่นศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าต่าง ๆ การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
ตลอดจนระบบนิเวศวิทยา ความสนใจในการจำลองความเป็นอยู่ของ
สิ่งมีชีวิตได้มีมานานแล้ว โดยการใช้โปรเเกรมต่างๆที่คิดค้นขึ้นมาสำหรับงานด้านวิทยาศาสตร์



       8. การประยุกต์ใช้ในงานด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม เทคโนโลยีของการสื่อสารและโทรคมนาคมในปัจจุบันก้าวไกลไปมาก
มีบริการมากมายที่ทันสมัยและตอบรับกับการนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น การใช้โทรศัพท์ในปัจจุบันนี้ก็มิไดมีไว้เพียงสำหรับคุยสนทนาเพียง
อย่างเดียวอีกต่อไป แต่มันสามารถช่วยงานได้มากขึ้น 


     9. การประยุกต์ใช้ในงานห้องสมุด เพื่อให้มีสะดวกรวดเร็วความรวดเร็วในการค้นคว้าหนังสือในแต่ล่ะหมวด สะดวกในการให้บริการยืมคืน การค้นหาหนังสือ วรสาร สิ่งพิมพ์ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว




ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ช่วยในการจัดเก็บสารสนเทศไว้ในรูปที่เรียกใช้ได้ทุกครั้งอย่างสะดวก





ช่วยในการสื่อสารระหว่างกันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดอุปสรรคเกี่ยวกับเวลาและระยะทาง โดยใช้ระบบโทรศัพท์ และอื่นๆ





 ลดแรงงานคนในการทำงานต่าง ๆ เช่น ควบคุมการผลิต และช่วยในการคำนวน





ช่วยในการเข้าถึงสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น





 ทำให้เกิดสื่อการเรียนการสอนต่างๆมากขึ้น เช่น การใช้บทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นต้น





  ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม และเกิดการกระจายโอกาส เช่น การใช้ระบบการเรียนการสอนทาง





ลดต้นทุนการผลิต

ข้อเสียของเทคโนโลยีสารสนเทศ 


ลงทุนสูง เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือที่มีราคาแพง
และส่วนมากไม่อาจจะนำไปใช้ได้ทันที
แต่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเสียก่อนจึงจะใช้ได้อย่างถูกต้องและมี
ประสิทธิภาพ






 ทำให้เกิดอาชญากรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นหนทางในการก่ออาชญากรรมได้
โจรผู้ร้ายอาจใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการวางแผนปล้น วางแผนโจรกรรม
มีการลักลอบใช้ข้อมูลข่าวสาร
มีการโจรกรรมหรือแก้ไขตัวเลขบัญชีด้วยคอมพิวเตอร์






ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร
ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว
การใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การเล่นเกมมีลักษณะการใช้งานเพียงคนเดียว
ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง  






 ทำให้เกิดการเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล





 ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
การนำมาใช้ในทางใดจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้


อ้างอิง 

- https://sites.google.com/site/2200405natthawut/e-book/--thos-khxng-thekhnoloyi-sarsnthes 

- http://buddyict.wordpress.com



- http://forum.datatan.net/index.php/topic,126.msg126.html

- https://sites.google.com/site/2200405natthawut/e-book/--prayochn-khxng-thekhnoloyisarsnthes

- http://www.learners.in.th/blogs/posts/346443

-  https://sites.google.com/site/pnru261/tecnology-for-life

-  เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน 

สังคมสารสนเทศ


 สังคมสารสนเทศ


     ในสังคมปัจจุบันเป็นยุคเเห่งการสื่อสารไร้พรมเเดนที่มีความรวดเร็วของข้อมูลข่าวสารในด้านต่างๆ และมีการเผยเเพร่ได้อย่างรวดเร็วของข้อมูลข่าวสารเพื่อช่วยในการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ให้เกิดความคิดที่สร้างสรรเกิดการประดิษฐคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันช่วยให้เกิดการเรียนรู้โดยการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองอีกทั้งยังช่วยพัฒนาการขับเคลื่อนในด้านธุรกิจช่วยให้ธุรกิจเกิดการพัฒนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆและสารสนเทศยังเป็นสือกลางในการในการถ่ายทอดวัฒนธรรมดันดีงามของชาติอีกด้วย การใช้สารสนเทศมีความสำคัญในอีกหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็น การใช้สารสนเทศในการประกอบอาชีพ ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ในด้านการศึกษา การใช้สารสนเทศที่ถูกต้องจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตเเก่ประชากรโลกเพื่อที่จะได้นำความรู้ความเข้าใจมาตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง 
แม่นยำ และรวดเร็ว ทันเวลากับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม 



ความหมายของสังคมสารสนเทศ 

สังคม หมายถึง  คนจำนวนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันตามระเบียบ   กฎเกณฑ์  
โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญร่วมกัน ตามพจนานุกรม  ฉบับราชบัณฑิตสถาน (2542:1159)

สังคม หมายถึง กลุ่มคนมากกว่าสองคนขึ้นไปมาอยู่รวมกันเป็นระยะเวลายาวนานในขอบเขตหรือพื้นที่ที่กำหนด  สุดา  ภิรมย์แก้ว  (2545: 67) 

สังคม หมายถึง สังคมเป็นกลุ่มชนิดหนึ่งที่ย่อมจะมีลักษณะเหมือนกับกลุ่มต่าง ๆ 
โดยทั่วไป  คือ  
คนในกลุ่มต้องมีความสัมพันธ์กันโดยทางตรงหรือทางอ้อมมีระเบียบกฎเกณฑ์ร่วม
กันเพื่อให้ความสัมพันธ์ในกลุ่มเป็นไปด้วยดี 
 และสมาชิกมีความรู้สึกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม  ยุทธ  ศักดิ์เดชยนต์  (2529: 8) 

จากผู้ที่ให้คำนิยามสรุปได้ว่า  สังคม หมายถึง 
กลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในอาณาบริเวณหนึ่ง  
โดยมีความสัมพันธ์ภายใต้ระเบียบแบบแผนที่สังคมกำหนด  
มีการกระทำระหว่างกันทางสังคม  มีประเพณี  
และวัฒนธรรมที่เหมือนกันเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของคนในสังคม  

สารสนเทศ หมายถึง หมายถึง  ข่าวสาร  การแสดงหรือการชี้แจงข่าวสาร ข้อมูลต่าง ๆ ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 
(ราชบัณฑิตยสถาน, 2542) 

สารสนเทศ หมายถึง  ผลสรุปที่ได้จาก การนำข้อมูลมาประมวล ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น 
การสรุปทางสถิติ การเปรียบเทียบ การจำแนก หรือ จัดกลุ่ม ฯลฯ (ครรชิต 
มาลัยวงศ์,  2541)

จากผู้ให้คำนิยามสรุปได้ว่า สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ที่ได้มีการจัดการไม่ว่าจะเป็นการคิดคำนวน การประมวลผลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ และได้นำไปไช้ได้ทันต่อความต้องการและทันเวลาการใช้งาน

 ดังนั้น สังคมสารสนเทศ หมายถึง สังคมสารสนเทศหรือสังคมข่าวสาร (The information 
society) เป็นสังคมที่มีการใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆ 
เพื่อประกอบการตัดสินใจทั้งเพื่อประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม 
ในสังคมสารสนเทศจะทำให้เราได้รับสารสนเทศที่มีคุณภาพ 
ตรงกับความต้องการและทันเวลา 





ความสำคัญของสังคมสารสนเทศ

     สังคมสารสนเทศมีความสำคัญในด้านต่างๆหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้ในการประกอบอาชีพ ด้านการศึกษา การค้นคว้าและวิจัย ด้านเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรม และนับว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ากับมนุษย์ชาติเป็นอย่างมาก

1.ด้านการประกอบอาชีพ โดยการเเสวงหาสารสนเทศที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพของตนเอง เช่น เกษตรกร เมื่อประสบปัญหาโรคระบาดกับพืชผลทางการเกษตรของตน ก็สามารถหาตัวยาหรือสารเคมีเพื่อมากำจัดโรคระบาด ดังกล่าวได้ เป็นต้น

2. ด้านการศึกษา การเลือกใช้สารสนเทศที่ดี ทันสมัย มีคุณค่าจะช่วยให้การศึกษาในระบบโรงเรียน การศึกษานอกระบบโรงเรียน การศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต และทำให้การเรียนการสอนเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล

3. ด้านการวิจัยค้นคว้า  สารสนเทศช่วยให้การวิจัยเกิดประสิทธิภาพและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อสังคมได้เป็นอย่างมาก

4. ด้านเศรษฐกิจ ช่วยในการขังเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่ สารสนเทศด้านธุรกิจการค้าจึงถือเป็นต้นทุนการผลิตที่สำคัญในการแข่งขัน ทั้งนี้เพราะสารสนเทศช่วยประหยัดเวลาในการผลิต ลดขั้นตอนการลองผิดลองถูก  
อีกทั้งช่วยให้องค์กรได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหมๆได้ตามความต้องการของตลาด

5. ด้านสังคมวัฒธรรม  ความสำคัญด้านวัฒนธรรม    
สารสนเทศเป็นรากฐานที่จำเป็นสำหรับความก้าวหน้าของอารยธรรม   
สารสนเทศช่วยสืบทอด ค่านิยม ทัศนคติ  ศิลปะ 
และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์อันดีงามของชาติ ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ 
ความสามัคคี  ความมั่นคงในชาติ 




ข้อดีของสังคมสารสนเทศ  

1.ช่วยให้เกิดการเรียนรู้และช่วยให้มนุษย์เกิดความคิดที่สร้างสรรค์

2.ช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆในการผลิต

3.ช่วยให้เกิดการค้นคว้าและวิจัยสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ

4.ช่วยเป็นสือกลางในการเผยเเพร่สังคม วัฒนธรรมและเอกลักษณ์อันดีงามของชาติ

5.ช่วยในด้านการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากขึ้น




ข้อเสียของสังคมสารสนเทศ 

1. ทำให้เกิดอัชญากรรมมากขึ้น

2. ทำให้เกิดความเสื่อมถอยด้านความสัมพันธ์ของมนุษย์

3. ทำให้ธุรกิจเกิดความเสี่ยงมากขึ้น

เเบบฝึกหัดบทที่7 เรือ่ง ความปลอดภัยของสารสนเทศ


เเบบฝึกหัดบทที่ 7
                                                          เรื่อง ความปลอดภัยของสารสนเทศ

1. หน้าที่ของไฟร์วอลล์(Firewall)คืออะไร ?

ตอบ  ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยให้กับเครื่องข่ายภายใน (Internet) โดยป้องกันผู้บุกรุก (Intrusion) ที่มาจากเครือข่ายภายนอก หรือเป็นการกำหนดนโยบายการควบคุมการเข้าถึงระหว่างเครือข่าย โดยสามารถกระทำได้โดยวิธีแตกต่างกันไป และแต่ระบบ ไฟร์วอลล์ มีขีดความสามารถในการไม่อนุญาตการ Login สำหรับผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ในการเข้าใช้งานในเครือข่าย แต่ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ใช้งานทั้งภายใน และติดต่อภายนอกเครื่อข่ายได้โดยจำกัดข้อมูลจากภายนอกเคือข่ายไม่ให้เข้ามาในเครือข่าย นับเป็นจุดสังเกตการณ์ตรวจจับและรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย เปรียบได้ดังยรมที่ทำหน้าที่เผ้าประตูเมือง

2. จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm,virus computer, spy ware,adware มาอย่างน้อย 1 โปรเเกรม

ตอบ 1. Worm (หนอนอินเตอร์เน็ต) 
เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับโปรแกรมไวรัส 
แต่แพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ 
ที่ต่ออยู่บนเครือข่ายด้วยกัน 
ลักษณะการแพร่กระจายคล้ายตัวหนอนที่เจาะไชไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ 
แพร่พันธุ์ด้วยการคัดลอกตัวเองออกเป็นหลาย ๆ โปรแกรม 
และส่งต่อผ่านเครือข่ายออกไป และสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้ 
ไม่ว่าจะเป็น Outlook Express หรือ Microsoft Outlook เช่น 
เมื่อมีผู้ส่งอีเมล์และแนบโปรแกรมติดมาด้วย ในส่วนของ Attach file 
ผู้ใช้สามารถคลิ๊กดูได้ทันที 
การคลิ๊กเท่ากับเป็นการเรียกโปรแกรมที่ส่งมาให้ทำงาน 
ถ้าสิ่งที่คลิ๊กเป็นเวิร์ม เวิร์มก็จะแอกทีฟ และเริ่มทำงานทันที 
โดยจะคัดลอกตัวเองและส่งจดหมายเป็นอีเมล์ไปให้ผู้อื่นอีก ลักษณะของเวิร์มจึงไม่ใช่โปรแกรม ที่เขียนเป็น .exe อย่างเดียว เพราะถ้า 
.exe อย่างเดียว ผู้ใช้จะเฉลียวใจ 
และเนื่องจากในโปรแกรมประยุกต์ของไมโครซอฟต์เกือบทุกโปรแกรมสามารถเขียนเป็น
สคริปต์ไฟล์ หรือเป็นแมโครโฟล์ เพื่อให้รันสคริปต์หรือแมโครไฟล์ได้ 
เช่นในเวิร์ดก็จะมีการเขียนแมคโคร ในเอ็กซ์เซลก็เขียนได้เช่นกัน 
บนแพลตฟอร์มของวินโดว์จึงมีโอกาสที่จะเรียกไฟล์ขึ้นมารันได้หลายวิธี 
ข้อมูลที่ส่งมาถ้ามีแมคโครติดอยู่ ก็สามารถมีเวิร์มติดมาได้

2.virus computer (ไวรัส
คอมพิวเตอร์)
 
คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นมา 
เพื่อก่อกวนทำลายระบบคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลชุดคำสั่ง 
หรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น แผ่นดิสก์ 
ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจำคอมพิวเตอร์ 

และเป็นโปรแกรมที่สามารถกระจายจากคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่ง 

ไปยังคอมพิวเตอร์อีกตัวหนึ่งได้โดยผ่านระบบสื่อสารคอมพิวเตอร์ 
เช่น โดยผ่านทาง แผ่นบันทึกข้อมูล 
(Diskette) 
หรือระบบเครือข่ายข้อมูล  ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์ 
(แบ่งตามวิธีการติดต่อ)มีดังนี้

- boot 
sector viruses

จะ copy ตัวมันเองลงบน แผ่น 
diskette และลงบน 
boot sector ของ hard disk (boot 
sector 
คือตำแหน่งที่เก็บคำสั่งที่จำเป็นต้องใช้เวลาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์) 
เมื่อเราเปิด หรือreboot 
เครื่องคอมพิวเตอร์ 
boot sector viruses 
ติดต่อได้เพียงจากแผ่น 
diskette เท่านั้น 
แต่จะไม่ติดต่อเวลาใช้ไฟล์หรือโปรแกรมร่วมกัน 
ทุกวันนี้ boot sector viruses 
ไม่แพร่หลายเหมือนแต่ก่อน 
เพราะส่วนมากเดี๋ยวนี้เราจะ boot 
เครื่อง 
คอมพิวเตอร์จาก hard disk 
เป็นส่วนใหญ่

- program 
viruses จะติดต่อกับ 
executable files ซึ่งได้แก่ไฟล์ที่ลงท้ายด้วย 
.COM หรือ .EXE และยังสามารถติดต่อไปยังไฟล์อื่นๆซึ่งโปรแกรมที่ลง 
ท้ายด้วย .COM หรือ .EXE เรียกใช้ ไฟล์เหล่านี้ได้แก่ 
ไฟล์ที่ลงท้ายด้วย .SYS, .DLL, .BIN เป็นต้น 

-macro viruses 
จะติดต่อกับไฟล์ซึ่งใช้เป็น ต้นแบบ (template) 
ในการสร้างเอกสาร (documents หรือ spreadsheet) 
หลังจากที่ต้นแบบในการใช้สร้างเอกสารติดไวรัสแล้ว 
ทุกๆ เอกสารที่เปิดขึ้นใช้ด้วยต้นแบบอันนั้นจะเกิดความเสียหายขึ้น

3. Spyware คือ โปรแกรมที่แฝงเข้ามาในคอมพิวเตอร์ขณะที่คุณท่องอินเตอร์เน็ต 
ถูกเขียนขึ้นมาสอดส่อง การใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ 
และจะทำการเก็บพฤติกรรมการใช้งานอินเตอร์เน็ตของเรา 
รวมถึงข้อมูลส่วนตัวหลาย ๆ อย่างได้แก่ ชื่อ - นามสกุล , ที่อยู่ ,Email
Address และอื่น ๆ ซึ่งอาจจะรวมถึงสิ่งสำคัญต่าง ๆ เช่น Password หรือ 
หมายเลข บัตรเครดิตของเราด้วย นอกจากนี้อาจจะมีการสำรวจโปรแกรม และไฟล์ต่าง
ๆ ในเครื่องเราด้วย  และ Spyware 
นี้จะทำการส่งข้อมูลดังกล่าวไปในเครื่องปลายทางที่โปรแกรมได้ระบุเอาไว้ 
ดังนั้นข้อมูลต่าง ๆ ในเครื่องของคุณอาจไม่เป็นความลับอีกต่อไป spyware 
อาจเข้ามาเพื่อโฆษณาสินค้าต่าง ๆ 
บางตัวก็สร้างความรำคาญเพราะจะเปิดหน้าต่างโฆษณาบ่อย ๆ 
แต่บางตัวร้ายกว่านั้น คือ ทำให้ไม่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตไม่ได้เลย

4. Adware คือ  software ที่แสดงโฆษณาหรือ download โฆษณาแบบอัตโนมัติหลังจากที่ computer ได้ทำการInstall program บนระบบปฏิบัติการบางชนิดของ adware นั้นยังเป็น spyware ด้วยโดยการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานเอาไว้และจะทำการส่งโฆษณาที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมาให้Adware เป็น software ที่ได้รับการผสมมากับตัวsoftwareหลักมันเป็นปรกติที่ programmer จะหาทางที่จะได้ผลประโยชน์จากการที่พัฒนาโปรแกรมขึ้นมา โปรแกรมพวกนี้มักจะมาในรูปแบบของโปรแกรม free หรือโปรแกรมประเภท Shareware โปรแกรมประเภทนี้มักจะมีข้อตกลงอยู่ในโปรแกรมว่าถ้าคุณใช้ software ของเรา free ทางเราจะขอทำการส่งโฆษณามาที่เครื่องของคุณเรื่อยจนกว่าทางท่านจะได้จ่ายเงิน ให้กับทางเราประมาณนี้ ซึ่งเราสามารถซื้อโปรแกรมนั้นมาได้ด้วยการคลิกที่ "registered" หรือ "licensed" แล้วรับรหัสปลด lock มา (serials) เช่น Sweet IM
123 Messenger,180 Solutions,180SearchAssistant,Zango เป็นต้น

3. ไวรัสคอมพิวเตอร์มีกี่ชนิดอะไรบ้าง

ตอบ ไวรัสคอมพิวเตอร์มี 2 ชนิด ได้เเก่

     1. Application viruses จะมีผลหรือมีการเเพร่กระจายไปยังโปรเเกรมประยุกต์ต่าง เช่น โปรเเกรมประมวลผลคำ word processeng หรือโปรเเกรมตารางคำนวณเป็นตน

     2. System viruses ไวรัสชนิดนี้จะติดหรือเเพร่กระจายในโปรเเกรมจำพวกระบบปฏิบัติการ Operating systems หรือโปรเเกรมระบบอื่นๆ โดยไวรัสชนิดนี้มักจะเเพร่เชื้อในขณะที่เปิดเครื่องคอมพวิเตอร์

4. ให้นิสิตบอกทางป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มี่อย่างน้อย 5 ข้อ

ตอบ 1. ต้องมีการเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อยๆ อย่างน้อยปีล่ะ 1 ครั้ง

       2. มีการกำหนดสิทธิการเข้าใช้ระบบในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น

       3. มีการเข้ารหัสข้อมูลในคอมพิวเตอร์

       4. มีระเบียบปฏิบัติในการควบคุมอย่างชัดเเจ้งในการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

       5. ให้ความรู้อย่าสม่ำเสมอในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การเตรียมตัวและการป้องกันการบุกรุกของเเฮกเกอร์ เเครกเกอร์ รวมถึงขั้นตอนการดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์เมื่อถูกบุกรุก

5. มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเตอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบันได้เเก่

ตอบ ปัจจุบันได้มีความพยายามที่จะเเก้ไขปราบปรามการเผยเเพร่อย่างต่อเนื่อง โดยมีประเด็นดังนี้ ผู้ใดประสงค์เเจกจ่ายเเสดง อวดทำ ผลิตแก่ประชาชนหรือทำให้เผยเเพร่ซึ่งเอกสาร ภาพระบายสีสิ่งพิมพ์ เเถบบันทึกเสียง บันทึกภาพหรือเกี่ยวเนื่องกับสิ่งพิมพ์ดังกล่าว มีโทษจำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ 

โดยจะบังคับใช้กับผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต เซิร์ฟเวอร์ รวามถึงสื่อทุกประเภทอย่างจริงจังและมีการ

มีการจัดทำโครงการจากกระทรวง ไอซีที ด้วยตระหนักในการทวีความรุนเเรงของปํญหา จึงจัดทำโครงการ ไอซีทีไซเบอร์เเคร์ (ICT Cyber Care)โดยต่อยอดจากไอซีทีไซเบอร์คลีน(ICT Cyber Clean)เเบ่งเป็ฯ 2 ส่วนคือ 1)ICT Gate Keeper เฝ้าระวังพิษภัยอินเทอร์เน็ตบนเครื่อข่ายและวงจรเชื่อมต่อระหว่างประเทศ (Geteway) พัฒนาซอฟต์เเวร์นี้โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กระทรวงไอซีที ได้มอบหมายให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ดำเนินการเพิ่อเฝ้าระวังปิดกั้นข้อมูลไม่เหมาะสมตั้งแต่ต้นทาง

2) House Keeper ซึ่งจัดทำเป็นเเผ่นซีดีรอม และเเจกฟรีให้กับผู้ปกครองหรือดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ของกระทรวงโปรเเกรมนี้จะมี 3 ส่วน

- ส่วนเเรก คิดดี้เเค์ปิดกั้นเว็บไซต์อนาจารและเว็บที่ไม่เหมาะสมที่กระทรวงไอซีที มีข้อมูลคาดว่าจะช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่ง

- ต่อมาเป็ฯส่วนพิเพิลคลีน ติดไอคอนไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จะคลิกเข้าไปเมื่อพบภาพลามกอนาจาร ประชาชนจึงสามารถเข้ามีบทบาทช่วยเฝ้าระวังภัยได้เช่นกัน

- ส่วนสุดท้าย สมาร์ทเกมเมอร์ (Smart Gamer) เเก้ปัญหาการติดเกมส์ และควบคุมการเล่นเกมส์ของเด็กๆ ผู้ปกครองจะเป็นผู้กำหนดระยะเวลาของการเล่นเกมส์และช่วยดูแลเรื่องความรุนเเรงของเกมส์แต่ละส่วนควรต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัยตลอดเวลา

    โปรเเกรมนี้จะพอช่วยบรรเทาปัญหาและเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้งานบนอินเตอร์เน็ตจากผองภัย เช่น กลุ่มเว็บโป๊ ลามกอนาจาร กลุ่มเว็บกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ กลุามเว็บสอนใช้ความรุนเเรง ทารุน สอนเพศศึกศาเเบบผิดๆ ใช้ภาษาหยาบคาย สอนขโมยข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นต้น